วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สมัครอีเมลฟรี
     Gmail เป็นไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ของ Google สร้างขึ้นจากแนวคิดที่ว่าไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ควรใช้งานง่าย มีประสิทธิภาพ เป็นประโยชน์ และให้ความสนุกสนานด้วย ซึ่งการสมัครไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ทาง Gmail นั้น ผู้ใช้จะไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ซึ่งมีขั้นตอนการสมัครดังนี้ 
     1. เข้าเว็บไซต์ของ Google โดยพิมพ์ www.google.co.th
     2. คลิกลิงก์  Gmail 
     3. คลิกปุ่มสร้างบัญชี 
     4. กรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มจนครบ
     5. คลิกปุ่ม "  ฉันยอมรับ โปรดสร้างบัญชีของฉัน " 
     6. อ่านรายละเอียดการใช้งานและ คลิกปุ่ม " แสดงบัญชีของฉัน " เพื่อเข้าสู่เมล


มาจากหนังสือ
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.2
เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายในยุคต่างๆ

        ยุค 1G เป็นยุคที่ใช้สัญญาณวิทยุในการสื่อสารในการส่งคลื่นเสียง โดยไม่รองรับการส่งผ่านข้อมูลใดๆทั้งสิ้น สามารถใช้งานทางด้านเสียงอย่างรวดเร็ว คือ สามารถโทรออก-รับสายเท่านั้น ถือเป็นยุคแรกของการพัฒนาระบบโทรศัพท์แบบเซลลูลาร์ โดยใช้วิธีปรับสัญญาณแอนะล็อกเข้าช่องสื่อสาร ซึ่งแบ่งความถี่ออกเป็นช่องเล็กๆ ด้วยวิธีการนี้จึงมีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนช่องสัญญาณและการใช้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เกิดการติดขัดเรื่องการขยายจำนวนเลขหมายและจำนวนความถี่ ซึ่งโทรศัพท์แบบเซลลูลาร์ยังมีขนาดใหญ่ และใช้กำลังไฟฟ้ามากอีกด้วย
        ยุค2G เป็นยุคที่เปลี่ยนจากการส่งคลื่นทางคลื่นวิทยุแบบแอนะล็อกมาเป็นการใช้สัญญารดิจิทัล โดยส่งผ่านทางคลื่นไมโครเวฟ ทำให้สามารถใช้งานทางด้านข้อมูลได้นอกเหนือจากการใช้งานทางเสียงเพียงอย่างเดียวโดยสามารถรับส่งข้อมูลต่างๆ และเชื่อมโยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนเกิิดการกำหนดเส้นทางการเชื่อมกับสถานีฐานหรือที่เรียกว่า เซลล์ไซล์ (cell site) และก่อให้เกิดระบบ  GSM 
(Global System for Mobile Communication) ซึ่งทำให้สามารถถือโทรศัพท์เครื่องเดียวไปใช้ได้เกือบทั่วโลก หรือที่เรียกว่า บริการข้ามเครือข่าย (roaming)
          ยุค 3G  ใช้บริการมัลติมีเดีย และส่งผ่านข้อมูลในระบบไร้สายด้วยอัตราเร็วที่สูงขึ้น มีความเร็วในการดาวโหลดข้อมูลสูงสุด2 เมกะบิตต่อวินาที หรือเร็วกว่าเครือข่าย EDGE ที่ใช้ในปัจจุบันเกือบ 10 เท่า มีช่องสัญญาณความถี่ ความจุในการรับส่งข้อมูลที่มากกว่า เข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้สะดวกยิ่งขึ้น สามารถใช้การสนทนาแบบเห็นหน้า (Video telephony) และการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอ 
(Video conference) ช่วยให้สามารถสื่อสารได้พร้อมกันทั้งภาพและเสียง รับชมโทรทัศน์หรือวิดีโออินเทอร์เน็ตในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งมีสัญญาณภาพที่คมชัด และสามารถใช้บริการข้ามเครือข่าย (roaming)
ได้เช่นเดียวกับระบบ GSM

         ยุค 4G เป็นเครือข่ายไรสายความเร็วสูงชนิดพิเศษ มีความเร็วในการสื่อสารได้ถึงระดับ 20-40 เมกกะบิด ต่อ วินาที สามารถเชื่อมต่อเสมือนจริงในรูปแบบสามมิติ (three-dimensional : 3D) ระหว่างผู้ใช้โทรศัพท์ด้วยกันเองโดยให้บริการมัลติมีเดียในลักษณะที่สามารถโต้ตอบได้ เช่น อินเทอร์เน็ตไร้สาย เทเลคอนเฟอเรนซ์ เป็นต้น          

มาจากหนังสือ
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.2

วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ไวรัสคอมพิวเตอร์

         ไวรัสคอมพิวเตอร์ ( computer virus ) หรือเรียกสั้นๆว่าไวรัส คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่บุกรุกเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ ส่วนมากมักจะพัฒนาขึ้นเพื่อสร้างความเสียหายให้กับระบบของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นๆ ซึ่งไวรัสแบ่งออกเป็น 6 ประเภทดังนี้ 
          1. ไวรัสพาราสิต ( parasitic virus ) ไวรัสประเภทนี้จะเริ่มทำงานและจำลองตัวเองเมื่อมีการเรียกใช้งานไฟล์ที่ติดไวรัส ไวรัสคอมพิวเตอร์ส่วนมากจะเป็นประเภทนี้
          2. ไวรัสบูตเซกเตอร์ ( boot sector virus ) ไวรัสประเภทนี้จะฝังตัวลงในบูตเซกเตอร์ แทนที่คำสั่งที่ใช้ในการเริ่มต้นของการมำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ เมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นใช้งาน ไวรัสประเภทนี้จะโหลดตัวเองเข้าไปที่หน่วยความจำก่อนที่จะโหลดระบบปฏิบัติการ หลังจากนั้นจะสำเนาตัวเองไปฝังอยู่กับไฟล์อื่นๆด้วย
          3. ไวรัสสเตลท์ ( stealth virus ) ไวรัสประเภทนี้เป็นไวรัสที่มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงของตัวเองให้อยู่ในรูปแบบที่โปรแกรมป้องกันไวรัสต่างๆ ตรวจไม่พบ และเมื่อไปติดกับโปรแกมใดแล้วจะทำให้โปรแกรมนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
          4. ไวรัสโพลีมอร์ฟิก ( polymorphic virus ) ไวรัสประเภทนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกครั้งที่ติดต่อไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะส่งผลทำให้ไวรัสประทนี้ตรวจพบได้ยาก
          5. ไวรัสแมโคร ( macro virus ) ไวรัสประเภทนี้จะมีผลกับ Macro Application ( มักจะพบในปรแกรมประเภท Word Processors ) เมื่อผู้ใช้เรียกใช้ไฟล์ที่มีไวรัสติดมาด้วย จะทำให้ไวรัสไปังตัวอยู่ที่หน่วยความจำจนเต็ม อันจะทำให้การทำงานของคอมพิวเตอร์ช้าลง และอาจส่งผลเสียกับข้อมูลที่เก็บอยู่ในคอมพิวเตอร์ได้
          6. หนอนอินเทอร์เน็ต ( worms ) เป็นไวรัสคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่จะติดต่อกันทางอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อในการแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว โดยไวรัสชนิดนี้จะคัดลอกตัวเองซ้ำแล้วใช้ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อในการแพร่กระจายซึ่งโดยทั่วไปจะมากับอีเมล ตัวอย่างของหนอนอินเทอร์เน็ตคือ Adore โดยจะทำการค้นหาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีระบบปฏิบัติการ Linux หลังจากนั้นจะสนสร้างช่องทางในคอมพิวเตอร์เพื่อให้แฮกเกอร์ ( hacker ) สามารถเข้าไปยังคอมพิวเตอร์นั้นได้
มาจากหนังสือ
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.2